โปรแกรม Oligio เทคโนโลยีกระชับผิวด้วยคลื่นวิทยุ RF (Radio Frequency) รุ่นใหม่จากเกาหลีที่กำลังเป็นกระแสในตอนนี้ เพราะสามารถยกกระชับปรับรูปหน้าไปพร้อม ๆ กับลดไขมันที่สะสมใต้ชั้นได้ในเครื่องเดียว อีกทั้งยังเห็นผลลัพธ์ทันที 10-20% หลังทำหัตถการ โดยไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีแผลเป็น ซึ่งในบทความนี้ TALISA Clinic จะมาแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับโปรแกรม Oligio ว่าดีไหม ต่างจากหัตถการยกกระชับผิวอื่น ๆ ยังไงบ้าง เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ที่สนใจได้ลองเปรียบเทียบก่อนทำหัตถการ
โปรแกรม Oligio คืออะไร มีหลักการทำงานอย่างไร?
โปรแกรม Oligio คือ การนำเทคโนโลยีคลื่นวิทยุ RF (Radio Frequently) ความถี่ต่ำ 6.78 MHz ซึ่งเป็นช่วงคลื่นที่สามารถส่งพลังงานความร้อน 40-60 องศาถึงชั้นผิวหนังแท้และชั้นไขมัน เหมาะกับการใช้ยกผิวหน้าให้กระชับ ลดไขมันใต้ชั้นผิว กระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ทำให้ริ้วรอยลดลง รูขุมขนกระชับ ทำให้ผู้ที่ทำหัตถการมีโครงสร้างผิวที่แน่น แข็งแรง โดยไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม
โปรแกรม Oligio ดีอย่างไร ช่วยปัญหาผิวแบบไหนได้บ้าง?
โปรแกรม Oligio เป็นหัตถการที่หลายคนรีวิวว่าดี อยากกลับไปทำซ้ำ เพราะโปรแกรม Oligio สามารถช่วยรักษาปัญหาผิวได้มากมายดังต่อไปนี้
- ช่วยยกกระชับหน้าและลดความหย่อนคล้อย
- ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวแน่น เต่งตึงขึ้น
- ช่วยลดริ้วรอยบริเวณรอบดวงตา หน้าผาก ร่องแก้ม ให้จางลง
- ช่วยกระชับรูขุมขน ทำให้ผิวหน้าดูละเอียดมากขึ้น
- ช่วยทำให้กรอบหน้าชัด ใบหน้าเรียวมากขึ้นทันที 10-20% หลังทำหัตถการ
- รู้สึกสบายขณะทำหัตถการ ไม่เจ็บ เพราะมีระบบตรวจจับอุณหภูมิและ Cooling System เป่าลมระหว่างทำหัตถการ เหมาะกับทุกสภาพผิว
โปรแกรม Oligio เหมาะกับใครบ้าง?
โปรแกรม Oligio เป็นหัตถการที่สามารถแก้ปัญหาผิวต่าง ๆ เช่น ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ มีริ้วรอย มีรูขุมขุนกว้าง หรือมีไขมันสะสมใต้ผิวเยอะ แต่โปรแกรม Oligio เหมาะกับใครบ้าง สามารถตรวจสอบเพิ่มเติมได้ ดังนี้
- ผู้ที่อายุ 25 ปีขึ้นไป (เป็นช่วงที่ชั้นผิวเริ่มสูญเสียคอลลาเจนและอิลาสตินมากกว่าที่ผลิตได้)
- ผู้ที่มีเริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อย หรือผิวไม่กระชับ
- ผู้ที่มีริ้วรอยเล็ก ๆ ต้องการแก้ปัญหาริ้วรอยให้จางลง
- ผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง ทำให้ผิวหน้าดูไม่ละเอียด แต่งหน้าแล้วเครื่องสำอางไม่ติด
- ผู้ที่มีไขมันส่วนเกินใต้ชั้นผิวตามกรอบหน้า แก้ม เหนียง ลำคอ
- ผู้ที่ต้องการกระตุ้นให้ผิวเกิดกระบวนการผลิตคอลลาเจนและอิลาสติน แต่ไม่อยากฉีดสารกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน
- ผู้ที่ต้องการดูแลผิวหน้าตัวเอง แต่มีเวลาไม่มาก เพราะโปรแกรม Oligio ใช้เวลาทำหัตถการน้อยเพียง 20-30 นาทีเท่านั้น
- ผู้ที่ต้องการยกกระชับหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัดพักฟื้น เพราะโปรแกรม Oligio ไม่ใช่การศัลยกรรมใบหน้า
เปรียบเทียบโปรแกรม Oligio กับโปรแกรมยกกระชับอื่น ๆ ต่างกันอย่างไร?

ปัจจุบันมีหัตถการช่วยกระชับผิวมากมายอย่างโปรแกรม Oligio โปรแกรม Ultraformer III และโปรแกรมยกกระชับอื่น ๆ ทำให้หลายคนสงสัยว่าหัตถการอันไหนดีกว่ากัน ซึ่งหัตถการยกกระชับผิวแต่ละโปรแกรมใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างกัน ทำให้ทุกหัตถการกระชับผิวมีจุดเด่นในตัวเอง ในหัวข้อนี้จะมาสรุปความแตกต่างระหว่างโปรแกรม Oligio VS โปรแกรม Ultraformer III เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจก่อนทำหัตถการง่ายขึ้น
โปรแกรมยกกระชับผิว Oligio
- พลังงาน : คลื่นวิทยุ Monopolar RF
- ระดับความลึก : ชั้นหนังแท้ Dermis ถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง
- ความรู้สึกขณะทำ : รู้สึกอุ่น ๆ บริเวณที่ทำหัตถการเล็กน้อย
- ระยะเวลาเห็นผลลัพธ์ : 10-12 เดือน
โปรแกรมยกกระชับผิว Ultraformer III
- พลังงาน : คลื่น High Intensity Focus Ultrasound
- ระดับความลึก : ชั้นหนังแท้ Dermis ถึงชั้นผิวชั้นกล้ามเนื้อ SMAS
- ความรู้สึกขณะทำ : เจ็บกว่าโปรแกรม Oligio เล็กน้อย
- ระยะเวลาเห็นผลลัพธ์ : 10-12 เดือน
จากที่สรุปข้างต้นระหว่างโปรแกรม Oligio vs โปรแกรม Ultraformer III จะเห็นว่าแต่ละหัตถการมีจุดเด่นต่างกัน เช่น โปรแกรม Oligio ฉายพลังงานตั้งแต่ผิวชั้นบนจนถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง เพื่อกระชับผิวและลดไขมันใต้ชั้นผิว จึงเหมาะกับใบหน้าที่มีไขมันที่สะสมใต้ชั้นผิวมากกว่าโปรแกรม Ultraformer III ที่ฉายคลื่นพลังงานไปที่ชั้นผิว SMAS โดยตรง ทำให้โปรแกรม Ultraformer III สามารถรักษาปัญหาผิวหน้าที่หย่อนคล้อยมากได้ดี ทั้งนี้สามารถทำทั้งสองโปรแกรมเพื่อลดไขมันใต้ชั้นผิวพร้อมยกผิวให้กระชับขึ้นพร้อมกันได้
วิธีดูแลผิวหลังทำโปรแกรม Oligio
วิธีดูแลตัวเองหลังทำโปรแกรม Oligio จะเน้นไปที่การบำรุงผิวบริเวณที่ทำหัตถการ เพื่อให้พลังงานกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนอย่างเต็มที่ ให้ผลลัพธ์หลังทำหัตถการคงอยู่ได้นานที่สุด โดยจะมีวิธีดูแลตัวเองดังนี้
- หมั่นทาครีมกันแดดค่า SPF50 ทุกวันแม้ไม่ออกแดด และเลี่ยงสถานที่แดดแรงจัด ถ้าเลี่ยงไม่ได้ให้กางร่มหรือสวมหมวกช่วยป้องกันเพิ่มอีกชั้น
- ดื่มน้ำให้มาก และหมั่นทามอยเจอร์ไรเซอร์ให้ผิวชุ่มชื้นอยู่เสมอ เพื่อให้ชั้นผิวเกิดกระบวนการกระตุ้นคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- หลังทำโปรแกรม Oligio งดล้างหน้าด้วยน้ำร้อนอย่างน้อย 1-2 วัน และงดทำหัตถการหรือทรีตเมนต์ที่ใช้พลังงานความร้อนสูงอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
- หากรู้สึกปวดบริเวณที่ทำโปรแกรม Oligio ยกกระชับผิว สามารถทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการปวดลงได้
หลังทำโปรแกรม Oligio มีโอกาสพบผลข้างเคียงไหม?
แม้ว่าหลังทำโปรแกรม Oligio อาจมีโอกาสพบผลข้างเคียงก็จริง แต่ผลข้างเคียงที่พบเป็นอาการไม่รุนแรง และสามารถปล่อยให้หายเองได้ในระยะไม่นาน ดังนี้
- รอยแดง เป็นอาการที่พบได้ในกลุ่มผู้มีผิวบอบบาง ปกติแล้วรอยแดงสามารถหายเองได้ใน 4-6 ชั่วโมง
- ผิวตึงหรือชา เป็นอาการที่เกิดจากคอลลาเจนในผิวหดตัว สามารถหายเองได้ในระยะเวลา 24 ชั่วโมง
- ผิวแห้ง ผิวลอก เป็นอาการที่อาจพบหลังทำโปรแกรม Oligio สามารถแก้ได้ด้วยการทามอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
- อาการปวด บวมช้ำ เป็นอาการที่สามารถพบได้หลังทำหัตถการ ปกติแล้วจะหายเองภายใน 1 สัปดาห์
โปรแกรม Oligio ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง แต่ละตำแหน่งใช้กี่ช็อต?

โปรแกรม Oligio เป็นโปรแกรมที่สามารถทำได้หลายตำแหน่ง เช่น กรอบหน้า แก้ม เหนียง ลำคอ และอื่น ๆ ซึ่งแต่ละตำแหน่งจะใช้ปริมาณช็อตต่างกันตามปัญหาผิวที่ต้องการรักษา โดยมีแพทย์เป็นผู้ประเมินจำนวนที่เหมาะสมในแต่ละครั้ง เรามาดูกันต่อว่าจำนวนช็อตในการทำโปรแกรม Oligio ช่วยอะไรได้บ้าง
- 300 ช็อต : ช่วยยกกระชับผิวบางตำแหน่ง เช่น เหนียง แก้ม กรอบหน้า เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว และลดริ้วรอยเล็ก ๆ ได้
- 600 ช็อต : ช่วยยกกระชับผิวทั่วหน้า ลดความหย่อนคล้อยลำคอ พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว และลดริ้วรอยได้เล็กน้อย
- 600-900 ช็อต : ช่วยยกผิวแก้มให้กระชับ ยิ่งแก้มมีปัญหาหย่อนคล้อยมาก ก็ยิ่งใช้จำนวนช็อตเยอะขึ้นตาม
- 600-1,200 ช็อต : ช่วยยกกระชับทั่วหน้า รวมถึงเหนียง และลำคอ กระตุ้นชั้นผิวให้สร้างคอลลาเจน และช่วยสลายไขมันที่สะสมตามกรอบหน้าและเหนียง
คำถามที่หลายคนมักถามเกี่ยวกับโปรแกรม Oligio
โปรแกรม Oligio กับโปรแกรม Ultraformer III ควรทำอันไหนก่อน?
โปรแกรม Oligio กับโปรแกรม Ultraformer III สามารถทำคู่กันได้ เพราะทั้งสองหัตถการใช้เทคโนโลยีช่วยยกกระชับหน้าต่างกัน และคลื่นพลังงานที่นำมาใช้ปรับโครงสร้างชั้นผิวต่างกัน แต่แนะนำว่าถ้าสนใจทำทั้งสองหัตถการพร้อมกัน ควรเข้าพบแพทย์เพื่อปรึกษาก่อน เพื่อให้แพทย์ประเมินและออกแบบวิธีรักษาผิวที่เหมาะสม
โปรแกรม Oligio เจ็บไหม?
โปรแกรม Oligio ไม่เจ็บแม้ว่าจะไม่ใช้ยาชาก่อนเริ่มทำหัตถการ เพราะระหว่างทำหัตถการตัว เครื่อง Oligio มีระบบตรวจจับอุณหภูมิ ช่วยป้องกันผิวไหม้ โดยเครื่องจะหยุดทำงานทันทีถ้าระหว่างทำหัตถการตรวจจับได้ว่ามีอุณหภูมิสูงเกิน และยังมีระบบ Cooling เป่าความเย็นบนผิวหนังเพื่อลดความร้อนที่สะสมในชั้นผิวลง และหลังทำหัตถการอาจมีอาการตึงผิวเล็กน้อย แต่ไม่เจ็บ สามารถหายเองได้ใน 24 ชั่วโมง
หลังทำโปรแกรม Oligio ต้องพักหน้าหรือไม่?
หลังทำโปรแกรม Oligio ไม่จำเป็นต้องพักหน้า สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่ว่าจะล้างหน้า แต่งหน้า ทาครีมบำรุงผิว ก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องกังวล เพราะโปรแกรม Oligio ไม่ใช้ใบมีดผ่าตัดหรือเข็มฉีดยาระหว่างทำหัตถการ ทำให้ใบหน้าไม่มีรอยแผลใด ๆ หลงเหลือทิ้งไว้
โปรแกรม Oligio ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน?
โปรแกรม Oligio อยู่ได้นานแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลตัวเองหลังทำหัตถการ โดยทั่วไปแล้วผลลัพธ์จากการทำโปรแกรม Oligio จะคงอยู่เฉลี่ย 10-12 เดือน แต่สามารถมากระตุ้นผิวซ้ำทุก ๆ 6 เดือนเพื่อให้ผลลัพธ์คงอยู่นานขึ้นได้
ใครบ้างที่ไม่ควรทำโปรแกรม Oligio?
เนื่องจากโปรแกรม Oligio ใช้คลื่นวิทยุ RF ทำให้มีผู้คนบางกลุ่มที่ไม่เหมาะกับการทำหัตถการ ดังนี้
- ผู้ที่มีระบบไหลเวียนเลือดผิดปกติ และผู้ที่มีภาวะเลือดหยุดไหลยาก
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรืออยู่ระหว่างให้นมบุตร
- ผู้ที่มีโลหะฝังผิวบริเวณที่ทำหัตถการ รวมถึงผู้ที่ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจไฟฟ้า
- ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับผิวหนัง หรือผิวหนังติดเชื้ออยู่ ควรรักษาให้หายก่อนทำหัตถการ
กรามใหญ่ ควรทำโปรแกรม Oligio หรือโปรแกรมโบท็อกกราม?
ต้องดูว่าปัญหากรามใหญ่เกิดจากอะไร ถ้ากรามใหญ่จากกล้ามเนื้อหดตัว แนะนำทำโปรแกรมโบท็อกกรามเพื่อให้กล้ามเนื้อคลายตัว แต่ถ้าปัญหากรามใหญ่จากผิวหย่อนคล้อยหรือมีไขมันสะสม โปรแกรม Oligio จะแก้ปัญหาถูกจุดมากกว่า อย่างไรก็ตามทั้งสองหัตถการนี้สามารถทำพร้อมกันเพื่อยกระดับกระชับหน้าให้ดูคมชัดมากขึ้นได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำเพื่อให้เห็นผลลัพธ์เต็มที่
โปรแกรม Oligio ราคาพิเศษที่ไหนดี?
โปรแกรม Oligio เป็นเทคโนโลยีกระชับผิวด้วยคลื่นวิทยุ RF รุ่นใหม่ที่สามารถกระชับผิวไปพร้อม ๆ กับลดไขมันสะสมใต้ชั้นผิว และกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ช่วยให้โครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้นจากภายใน โดยสามารถทำร่วมกับโปรแกรมหัตถการอื่น ๆ เช่น Ultraformer III, Fat Bomb หรือจะทำร่วมกับโปรแกรมโบท็อกลดกราม
TALISA Clinic มีบริการยกกระชับปรับรูปหน้า โดยให้แพทย์วิเคราะห์และออกแบบบริการที่เหมาะสม ตรงกับความต้องการของผู้เข้ารับการรักษาแต่ละคน เพื่อให้ผลลัพธ์เป็นที่พึงพอใจ สำหรับผู้ที่สนใจทำโปรแกรม Oligio กับ TALISA Clinic ตอนนี้ก็มีโปรโมชันโปรแกรม Oligio ราคาไม่แรงมาแนะนำ ดังนี้
- โปรแกรม Oligio 300 ช็อต ราคา 14,990 บาท
พร้อมเลือกทำหัตถการอื่นฟรี 1 อย่าง (‘โปรแกรม Ultraformer 100 ช็อต’ หรือ ‘โปรแกรม Fat Bomb 1 โดส’) - โปรแกรม Oligio 600 ช็อต ราคา 29,990 บาท
พร้อมเลือกทำหัตถการอื่นฟรี 1 อย่าง (‘โปรแกรม Ultraformer 200 ช็อต’ หรือ ‘โปรแกรม Fat Bomb 2 โดส’)
สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
- LINE @talisaclinic
- Instagram : talisaclinic
- Facebook : Talisa clinic
References
Beasley, KL., A Weiss, RA. (2014). Radiofrequency in cosmetic dermatology. Dermatol Clin. 32(1): 79-90. https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/24267424/
Wanitphakdeedecha, R. Yogya, Y. Yan, C. Phumariyapong, P. Nanchaipruek, Y. Thongjaroensirikul, P. Maneeprasopchoke, P. Techapichetvanich, T. Eimpunth, S. Manuskiatti, W. (2022). Efficacy and Safety of Monopolar Radiofrequency for Treatment of Lower Facial Laxity in Asians. Dermatol Ther (Heidelb). 12(11): 2563–2573. https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/36166188/
WONTECH, (n.d.). Oligio. https://wontech-asia.com/page/file/oligio_1.pdf